วันพฤหัสบดีที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2558

โรคเลือดข้น (โรค MPN) มฤตยูเงียบ

'โรคเลือดข้น' มฤตยูเงียบ
ภาวะซีด เหนื่อยง่าย คันตามร่างกายโดยหาสาเหตุไม่ได้ เหงื่อออกมากเวลานอนจนต้องเปลี่ยนผ้าปูที่นอน อย่าชะล่าใจกับสัญญาณเตือนว่า 'มะเร็งโรคเลือด' อาจกำลังมาเยือน
มะเร็งโรคเลือด หรือโรคเอ็มพีเอ็น ( Myeloproliferative neoplasm) ไม่ใช่โรคที่แปลกใหม่ วงการแพทย์พยายามสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับโรคนี้ให้กับประชาชน โดยเน้นให้ทราบถึงอาการผิดปกติเบื้องต้น เพื่อรับการรักษาได้ทันการณ์

ก่อนที่จะรู้ว่าโรคเอ็มพีเอ็นคืออะไร พอ.นพ.อภิชัย ลีละสิริ ผู้อำนวยการกองอายุรกรรม โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า กล่าวว่า ต้องเข้าใจเกี่ยวกับระบบการทำงานของเลือดในร่างกาย ซึ่งประกอบด้วย เม็ดเลือดแดง เม็ดเลือดขาวและเกล็ดเลือด เพื่อให้ทราบว่าโรคนี้เกิดขึ้นที่ส่วนไหนของร่างกายได้บ้าง แล้วเมื่อเกิดขึ้นกับร่างกายของเราแล้วจะส่งผลร้ายอย่างไร

ความผิดปกติของระบบผลิตเม็ดเลือด ทราบได้จากการตรวจเลือดดูความสมบูรณ์และปริมาณเม็ดเลือดแดง กรณีที่มีมากเกินไปจะมีผลให้เลือดข้นไหลเวียนได้ช้า เสี่ยงที่จะเกิดอาการเส้นเลือดอุดตันตามมา ขณะเดียวกันหากร่างกายผลิตน้อยก็เสี่ยงที่จะอยู่ในภาวะโลหิตจาง ตัวซีดและเหนื่อยง่าย
เม็ดเลือดขาวก็เช่นเดียวกันถ้ามีปริมาณมากเกินไป ก็จะทำให้เลือดข้น ไหลเวียนช้า แต่หากร่างกายผลิตได้น้อยจะทำให้ร่างกายมีโอกาสที่จะติดเชื้อโรคง่ายกว่าปกติ และในคนที่มีปัญหาเรื่องเกล็ดเลือด หากร่างกายผลิตเกล็ดเลือดมากเกินไปก็เพิ่มความเสี่ยงในการอุดตันได้เช่นกัน แต่หากน้อยเกินพอดีก็เสี่ยงที่จะทำให้เลือดออกง่าย แต่หยุดยาก
ความผิดปกติของระบบเลือดในร่างกาย สังเกตจากอาการที่ปรากฏคือ ภาวะซีด เหนื่อยง่าย คันตามร่างกายโดยหาสาเหตุไม่ได้ เหงื่อออกมากเวลากลางคืน กินอาหารได้น้อยลง รวมถึงมีอาการเจ็บแถวบริเวณใต้ชายโครง ซึ่งเป็นตำแหน่งของตับและม้าม เพราะตับหรือม้ามอาจมีขนาดที่โตกว่าปกติอยู่ อ่อนเพลียง่าย เป็นต้น

ส่วนสาเหตุความผิดปกติมาจาก 2 สาเหตุคือ พันธุกรรมและเกิดขึ้นในภายหลังเพราะร่างกายทำงานผิดปกติ โดยกลุ่มเสี่ยงที่น่าเป็นห่วงคือ ผู้สูงอายุ ผู้ที่มีประวัติเม็ดเลือดขาว เม็ดเลือดแดงและเกล็ดเลือดผิดปกติ
สำหรับวิธีการรักษามะเร็งโรคเลือดด้วยการเปลี่ยนถ่ายไขกระดูก ซึ่งสร้างความหวังสูงสุดให้กับคนไข้ว่าจะต้องหายแน่นอน แต่แท้จริงแล้วเป็นวิธีที่เกิดขึ้นได้ยากมากๆ ในทางการแพทย์ เพราะต้องอาศัยปัจจัยที่เอื้อต่อการรักษาอีกหลายประการร่วมด้วย หรือกรณีคนไข้ม้ามโต แพทย์อาจให้กินยาลดขนาดม้าม แต่ก็มีผลข้างเคียงทำให้ร่างกายผลิตเม็ดเลือดขาวได้น้อยลง หรือหากฉายแสงทำให้ม้ามยุบได้ 2 เดือนก็กลับมาโตใหม่และทำซ้ำไม่ได้แล้ว

“โรคเอ็มพีเอ็นเป็นโรคเรื้อรังที่เป็นแล้วรักษาไม่หายขาด แต่เป้าหมายของการรักษาก็เพื่อบรรเทาอาการและลดภาวะแทรกซ้อนจากโรค รวมถึงทำให้ผู้ป่วยมีชีวิตที่ยืนยาวขึ้น และมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น หากปฏิบัติตนตามที่แพทย์แนะนำอย่างถูกวิธี กินยาสม่ำเสมอไปตลอดไม่มีดื้อ รู้ควบคุมไขมันในเลือดและงดสูบบุหรี่ซึ่งเป็นตัวการทำให้ภาวะลิ่มเลือดอุดตันมากขึ้น คนไข้ก็สามารถที่จะมีชีวิตยืนยาวไม่ต่างจากคนปกติ” พอ.นพ.อภิชัย กล่าว

ทำความรู้จักโรคเอ็มพีเอ็น
โรคเอ็มพีเอ็นเป็นกลุ่มของโรคเลือด ที่เกิดจากความผิดปกติของเซลล์ต้นกำเนิดที่ทำหน้าที่ผลิตเม็ดเลือดและเกล็ดเลือด โดยเฉพาะ 3 โรคที่พบบ่อยคือ
1. โรคเลือดข้น เนื่องจากร่างกายผลิตเม็ดเลือดแดงมากกว่าปกติ ส่งผลให้เกิดภาวะหลอดเลือดอุดตันบริเวณขาข้างใดข้างหนึ่ง และบริเวณปลายนิ้ว และทำให้ผู้ป่วยมีอาการเวียนศีรษะ การรักษาจะให้ยาต้านเลือด
2. โรคเกล็ดเลือดสูง จะมีการอาการเวียนศีรษะ ปวดศีรษะ วูบบ่อยๆ หลอดเลือดอุดตัน ปวดบริเวณปลายนิ้ว บางกรณีกลายเป็นอัมพฤกษ์-อัมพาตครึ่งซีก ขาบวมและปวดข้างเดียว รักษาได้ด้วยการรับประทานยา
3. โรคผังผืดในกระดูก ไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด โดยผู้ป่วยที่อยู่ในระยะแรกจะไม่แสดงอาการ แต่ต่อมาจะมีอาการม้ามโต แน่นท้อง อิ่มง่าย กินอาหารได้น้อย ปวดท้องบริเวณใต้ชายโครงด้านซ้าย อ่อนเพลียง่าย ตับอาจจะโตขึ้นทำให้แน่นท้องใต้ชายโครงขวา ต่อมาจะมีอาการคัน และเหงื่อออกตอนกลางคืน หากโรคอยู่ในระยะสุดท้ายอาจจะมีไข้ อ่อนเพลียมาก ผอมแห้ง ปวดกระดูก ปวดตามเส้นประสาท
การรักษาจะทำได้ด้วยการรับประทานยา การรับเลือดและการเปลี่ยนถ่ายไขกระดูก ในกรณีที่ผู้ป่วยได้รับเลือดบ่อยๆ อาจจะเกิดภาวะเหล็กในร่างกายสูงและสะสมอยู่ตามอวัยวะต่างๆ ส่งผลให้ประสิทธิภาพในการทำงานลดลง ในกรณีที่ม้ามโตจะต้องรักษาด้วยการรับประทานยาลดขนาดม้าม หรือฉายรังสี และตัดม้าม
Tags : โรคเอ็มพีเอ็น,เลือด,สุขภาพ,มะเร็งโรคเลือด,พอ.นพ.อภิชัย ลีละสิริ
ด้วยความปรารถนาดีจาก 
#โค้ชเกมส์
#ผู้เชี่ยวชาญด้านการฟื้นฟูสุขภาพร่างกายด้วยสารอาหารจำเป็นคุณภาพสูง
📞 092-645-4256
📲 LINE : kp156
#เพราะหลอดเลือดคือทั้งหมดของชีวิต 
#ProArgi9Plus

#Chlorophyll_Plus

ไม่มีความคิดเห็น: