วันพฤหัสบดีที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

มารู้จัก "หลอดเลือดเชื่อมน้ำตาล" กันครับ

มารู้จัก "หลอดเลือดเชื่อมน้ำตาล" กันครับ . 

     กินหวานมาก กินแป้งมากเกินไป ไม่ได้ทำให้อ้วนอย่างเดียว แต่ยังส่งผลเสียอีกมากมายต่อร่างกาย เช่น ทำให้ผิวหนังเกิดริ้วรอย จุดด่างดำ ทำให้เป็นสิว ทำให้แก่ก่อนวัย ทำให้เซลล์อักเสบ เซลล์ถูกทำลาย ทำให้อวัยวะต่างๆทำงานได้แย่ลง ผนังหลอดเลือดแข็งและเปราะบาง ทำให้เลือดส่งอาหารและออกซิเจนได้แย่ลง ฯลฯ  

     การกินอาหารที่มีหวานจัด หรืออาหารที่จำพวกแป้งขัดสีมากเกินไป จะทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดพุ่งสูงขึ้น พอระดับน้ำตาลในเลือดมีมากเกินไป ร่างกายจะมีตัวควบคุม คือ "ฮอร์โมนอินซูลิน" เปลี่ยนน้ำตาลในเลือด ไปเก็บในรูปของไกลโคเจน และไขมัน (พลังงานสำรองของร่างกาย) แต่สำหรับคนทั่วๆไปที่ไม่ได้ออกกำลังกาย หรือเคลื่อนไหวร่างกายน้อยๆ นั่งเป็นผักทั้งวัน ไกลโคเจนจะเต็มตลอดเวลา ดังนั้น ร่างกายจะเปลี่ยนน้ำตาลในเลือด เป็นไขมันสะสมทั่วร่างกายเลย ทำให้อ้วนขึ้นเรื่อยๆ ถ้ากินหวานมากๆไปเรื่อยๆ ตับอ่อนก็จะหมดแรง เซลล์ถูกทำลาย เกิดภาวะดื้ออินซูลิน ส่งผลให้เกิดเป็นโรคเบาหวาน และเพิ่มความเสี่ยงที่จะเกิดโรคอื่นๆตามมา เช่น โรคหัวใจขาดเลือด โรคความดันโลหิตสูง โรคไต โรคอ้วน ฯลฯ 

     เมื่อระดับน้ำตาลในเลือดสูง จะทำให้เกิดปฏิกิริยา "ไกลเคชั่น" (Glycation) คือ การที่น้ำตาลไปจับกับโปรตีน ซึ่งโปรตีนเป็นส่วนประกอบหลักของอวัยวะและเซลล์ต่างๆในร่างกาย ทำให้โปรตีนเปลี่ยนรูป ถูกทำลาย เซลล์บริเวณนั้นเสื่อมสภาพ - เมื่อน้ำตาลไปจับกับคอลลาเจน รวมไปถึงใยโปรตีนในผิวหนัง ส่งผลให้เกิดริ้วรอย ผิวหนังเหี่ยวย่น จุดด่างดำ ผิวหนังเกิดการอักเสบ - ทำให้ผนังหลอดเลือด มีความยืดหยุ่นน้อยลง แตกเปราะได้ง่าย ทำให้การส่งอาหารและออกซิเจนเข้าสู่กล้ามเนื้อ และอวัยวะต่างๆลดลง แผลจะหายยาก ปลายประสาทจะถูกทำลาย - สมอง ไต และตา เป็นอวัยวะที่น้ำตาลเข้าไปได้โดยตรง ดังนั้น ผู้ป่วยเบาหวาน ก็จะมีแนวโน้มที่จะเซลล์สมองถูกทำลาย สมองทำงานแย่ลง ตาเกิดต้อ และอาจจะทำให้ตาบอดได้ เพิ่มความเสี่ยงที่จะเกิดไตวายได้ - หากน้ำตาลไปจับโปรตีน DNA ซึ่งเป็นสารพันธุกรรม เป็นแม่พิมพ์ในการแบ่งเซลล์ จะทำให้เกิดความเสื่อมในระดับเซลล์ได้ - เพิ่มอนุมูลอิสระ (Oxidative Stress) ในร่างกาย ทำให้โครงสร้างต่างๆในร่างกายถูกทำลาย 

     แต่อย่างไรก็ตาม น้ำตาลในเลือดก็เป็นสิ่งสำคัญ เป็นพลังงานหลักของสมองและร่างกาย ถ้าระดับน้ำตาลในเลือดต่ำมาก ก็จะทำให้ไม่มีแรง จะเป็นลม หน้ามืดหมดสติ สมองทำงานได้ไม่ดี ดังนั้นเราจะต้องรักษาสมดุลของระดับน้ำตาลในเลือดให้ดี ให้อยู่ในปริมาณที่ไม่มากหรือน้อยเกินไปตลอดทั้งวัน

     มาดูวิธีรักษาสมดุลของระดับน้ำตาลในเลือดกันครับ 
1. เลือกดื่มน้ำเปล่าแทนน้ำหวานๆทุกชนิด 
2. เลือกกินผลไม้สด แทนขนมหวาน 
3. เลือกกินคาร์โบไฮเดรตที่ทำให้น้ำตาลเพิ่มขึ้นอย่างช้าๆ อาหารที่มีใยอาหารมาก 
4. ถ้าจะกินขนมหวาน ให้กินขนมหวานที่ผสมธัญพืชที่มีใยอาหารสูง เช่น ลูกเดือย ถั่ว ข้าวโพด เป็นต้น 
5. หลี่กเลี่ยงการเติมน้ำตาลลงในอาหารและเครื่องดื่ม ไม่ว่าจะเป็นน้ำตาลทรายแดง น้ำตาลทรายขาว น้ำเชื่อม น้ำตาลที่สกัดจากข้าวโพด(corn syrup) เป็นต้น 
6. อ่านฉลากโภชนาการก่อนซื้อทุกครั้ง หลีกเลี่ยงอาหารหรือเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลมากกว่า 15 กรัม (3 ช้อนชา) 
7. ให้เวลาร่างกายในการปรับตัว ทำให้ลิ้นและสมองปรับสภาพ ลดการติดหวาน โดยการค่อยๆลดหวานอย่างสม่ำเสมอ 8. ขยับร่างกายให้มากขึ้น และออกกำลังกายให้สม่ำเสมอ

หวังว่าจะกลัวการกินหวาน กลัวการทำลายตัวเองกันบ้างนะครับ

ด้วยความปรารถนาดีจาก
#โค้ชเกมส์
#ผู้เชี่ยวชาญด้านการฟื้นฟูสุขภาพร่างกายด้วยสารอาหารจำเป็นคุณภาพสูง
📞 092-645-4256
📲 LINE : kp156
#เพราะหลอดเลือดคือทั้งหมดของชีวิต
#ProArgi9Plus
#Chlorophyll_Plus



ไม่มีความคิดเห็น: